Wednesday, September 24, 2014

บทวิเคราะห์ความมั่นคงปลอดภัยของสนามบิน



บทวิเคราะห์ความมั่นคงปลอดภัยของสนามบิน



หนึ่งในบรรดาข่าวฮือฮาบนสื่อต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้ ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของ “การลักลอบนำอุปกรณ์เทียบเคียงอาวุธปืนและการแอบแฝงตัวของบุคคลแปลกปลอมขึ้นเครื่องบินโดยสาร” คำถามที่ผู้อ่านทุกคนย่อมนึกสงสัยก็คือ แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง??



เมื่อวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ของสาเหตุปัญหา ในมุมมองของผมนั้นขอแบ่งออกเป็น 4 แง่มุม.. เริ่มต้นกันที่เรื่องแรกก็คือ (1) Process ซึ่งผมคิดว่าโดยทั่วไปแล้วมาตรการรักษาความปลอดภัยและขั้นตอนการปฏิบัติงานต่างๆ ย่อมต้องมีการเขียนขึ้นอย่างรอบคอบชัดเจน สอดคล้องตามมาตรฐานสากลการบินพลเรือนที่มีการบังคับใช้อยู่ ผมจึงค่อนข้างมั่นใจว่าปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นจากความบกพร่องของกระบวนการ แต่จากนี้ไปการทบทวนและปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นถือเป็นเรื่องจำเป็น



มุมมองที่สองต้องดูกันที่ (2) People ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานต่างๆ ตามความรับผิดชอบของตนตามที่กระบวนการได้กำหนดไว้ อาทิ การควบคุมการเข้าออกพื้นที่ การตรวจสอบสัมภาระ ผมคิดว่ามีความเป็นได้สูงที่ปัญหาอาจจะเกิดจากความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากร ลองคิดถึงสัมภาระจำนวนมากที่พวกเขาต้องตรวจสอบจนไม่สามารถรักษาความเคร่งครัดได้ในเวลาเร่งด่วน ความเหนื่อยล้าเจ็บป่วยของร่างกาย ความประมาทชะล่าใจ หรืออาจจะถูกล่อหลอกด้วยเทคนิคใดๆ จนปล่อยให้บุคคลแปลกปลอมหรือสิ่งเทียมอาวุธผ่านขึ้นเครื่องบินไปได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือหลายครั้งที่ผมพบว่าเจ้าหน้าที่ให้บริการตามสนามบินยังขาดความตระหนักรู้ถึงความมั่นคงปลอดภัย (Security Awareness)



ถัดมาในมุมมองด้าน (3) Technology ซึ่งได้แก่เครื่องมือทันสมัยต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ในสนามบินเพื่อใช้ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ควบคุมการเข้าออก ตรวจสอบสัมภาระ ฯลฯ อุปกรณ์เหล่านี้อาจจะไม่ใช่สาเหตุหลักของปัญหา แต่ในอีกทางหนึ่งมันอาจจะมีจุดอ่อนหรือช่องโหว่ที่ผู้ก่อการร้ายหัวใสสามารถอาศัยใช้ประโยชน์ได้ เช่น การลักลอบผ่านเข้าพื้นที่ควบคุมผ่านทางมุมอับซึ่งรัศมีของกล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพได้ เป็นต้น



สุดท้ายผมอยากเสนอให้ลองมองในมุมของ (4) ISO 27001:2013 ตามข้อกำหนดและมาตรการควบคุมภายใต้หัวข้อ A.11ความมั่นคงปลอดภัยทางกายภาพ (Physical and Environmental Security) อาทิ A.11.1.1 Physical Security Perimeter และ A.11.12 Physical Entry Control เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการละเลยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านั้น ทำให้เกิดจุดอ่อนหรือช่องโหว่ที่เอื้อให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถลักลอบนำตนเองและสิ่งเทียมอาวุธขึ้นเครื่องบินได้อย่างง่ายดาย



จากผลการวิเคราะห์ข้างต้น ผมจึงอยากเสนอแนะแนวทางปรับปรุงเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา ดังนี้



     >> ควรมีการพิจารณาหาจุดอ่อนและช่องโหว่อย่างรอบคอบ เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องรัดกุมขึ้น โดยมองหาจุดสมดุลย์ระหว่างการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและการให้บริการลูกค้า ถึงแม้ว่าการมุ่งหวังให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายสูงสุดจะเป็นเรื่องสำคัญของสายการบิน แต่ก็ไม่ควรผ่อนปรนจนต้องลดประสิทธิภาพของมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยลงโดยเด็ดขาด

     >> ในส่วนของกระบวนการนั้น ควรมีการตรวจประเมินภายใน (Internal Audit) หรือมีการทำ Control Self Assessment บ่อยขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

     >> การปรับปรุงคุณภาพของบุคลากรก็เป็นเรื่องสำคัญ เช่น การเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมกับภาระงาน, การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงปลอดภัย, การตรวจสุขภาพและสมรรถภาพของพนักงาน เป็นต้น

     >> สำหรับเทคโนโลยีนั้น ควรจะมีการทบทวนมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางกายภาพ โครงสร้างพื้นฐานของสนามบิน เพื่อปรับปรุงการใช้งานเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และแก้ไขจุดอ่อนที่มีอยู่เดิม



ในการปฏิบัติงานต่างๆ หากต้องเกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพของประชาชนมากเท่าใด องค์กรและหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยิ่งต้องมุ่งเน้นการรักษาความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น จุดอ่อนหรือช่องโหว่แม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถปล่อยปละละเลยได้ เพราะความผิดพลาดเพียงนิดอาจนำมาซึ่งความเสียหายใหญ่หลวงจากน้ำมือผู้มุ่งร้ายที่คอยจังหวะโจมตีอยู่แล้วก็เป็นได้



Content Cr: DestinationOne Counselor

Photo Cr: ABC News / MorgueFile.Com


No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.